ไมโครซอฟท์เปิดมือถือใหม่? "พิ้งก์"

ไมโครซอฟท์ (Microsoft) ร่อนหมายเชิญสื่อมวลชนร่วมงานประชุมที่ซานฟรานซิสโกในวันจันทร์ที่ 12 เมษายนที่จะถึงนี้ สื่ออเมริกันเชื่อเจ้าพ่อซอฟต์แวร์จะเปิดตัวโทรศัพท์เคลื่อนที่รุ่นล่าสุดที่มีชื่อรหัสว่า 'พิงก์ (Pink)' วางเป้าหมายหลักไว้ที่ตลาดวัยรุ่นซึ่งเสพติดเครือข่ายสังคมแบบต่อเนื่องทุกที่ทุกวันทุกเวลา สำนักข่าววอลล์สตรีทเจอร์นัลเป็นผู้รายงานแผนการเปิดตัวโทรศัพท์มือถือของไมโครซอฟท์ครั้งนี้ โดยอ้างแหล่งข่าววงในว่า พิงก์จะเน้นความสามารถด้านเครือข่ายสังคมเพื่อเจาะตลาดวัยรุ่น โดยทั้งหมดจะเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่ไมโครซอฟท์เตรียมไว้เพื่อทวงคืนบัลลังก์โทรศัพท์เคลื่อนที่ รายงานยืนยันว่าไมโครซอฟท์จะไม่ใช่ผู้ผลิตพิงก์โดยตรง แต่พิงก์จะเป็นอุปกรณ์ที่สร้างบนแพลตฟอร์มที่ไมโครซอฟท์พัฒนาขึ้นกับมือ โดยแหล่งข่าววอลล์สตรีทเจอร์นัลคาดว่าพิงค์จะเริ่มวางจำหน่ายในสหรัฐฯภายในเดือนเมษายนนี้ ผ่านพันธมิตรอย่างเวอไรซอนไวเลส (Verizon Wireless) โอเปอเรเตอร์มือหนึ่งของสหรัฐฯ ก่อนจะขยายกลุ่มไปยังตลาดโลกต่อไป วอลล์สตรีทเจอร์นัลระบุว่าแพลตฟอร์มโทรศัพท์มือถือใหม่ของไมโครซอฟท์คือสัญญาณล่าสุดที่แสดงว่าไมโครซอฟท์กำลังจริงจังกับการบุกตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยเน้นในส่วนฮาร์ดแวร์เครื่องเพื่อสร้างประสบการณ์ท่องอินเทอร์เน็ตแบบไหลลื่นกว่าเดิมแก่ผู้บริโภค ซึ่งเป็นจุดประสงค์เดียวกับการสร้างระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ (Android) ของกูเกิล แหล่งข่าววอลล์สตรีทให้รายละเอียดด้วยว่า ไมโครซอฟท์นั้นรับผิดชอบงานส่วนการออกแบบซอฟต์แวร์ งานบริการออนไลน์ และฮาร์ดแวร์ในพิงก์ แต่ชาร์ป (Sharp) เจ้าพ่อสินค้าอิเล็กทรอนิกส์สัญชาติญี่ปุ่นเป็นหัวเรือใหญ่ในการผลิต อย่างไรก็ตาม โครงการลักษณะนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ของไมโครซอฟท์ เนื่องจากรูปแบบโครงการเช่นนี้เคยนำมาปฏิบัติแล้วกับโทรศัพท์เคลื่อนที่ยอดฮิตของวัยรุ่นอเมริกันนามว่า"ไซด์คิก (Sidekick)" ซึ่งโอเปอเรเตอร์อย่างทีโมบายล์ (T-Mobile) เป็นผู้จัดจำหน่าย โดยไซด์คิกนั้นเป็นผลงานการออกแบบของบริษัทแดนเจอร์ (Danger Inc.) ซึ่งไมโครซอฟท์เข้าควบรวมเมื่อปี 2008 กระทั่งไมโครซอฟท์หันมาลงมือปั้นพิงค์ในที่สุด แม้หลายคนจะนำพิงค์ไปเชื่อมโยงกับการเปิดจำหน่ายสมาร์ทโฟนของกูเกิลอย่าง "เนกซัสวัน (Nexus One)" ซึ่งกูเกิลใช้ปีนี้เป็นปีเริ่มต้นจำหน่ายสมาร์ทโฟนฝีมือการผลิตโดยเอชทีซีที่กูเกิลออกแบบฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และบริการทั้งหมดเอง รวมถึงลงมือจัดจำหน่ายเองบนเว็บไซต์กูเกิล แต่วอลล์สตรีทเจอร์นอลเชื่อว่าไมโครซอฟท์จะยังเว้นที่ว่างความแตกต่างไว้ โดยตัดสินใจทำงานร่วมกับโอเปอเรเตอร์เพื่อปูทางในการนำพิงค์สู่ตลาด สำหรับหมายเชิญร่วมงานประชุมในวันจันทร์ที่ 12 เมษายนนี้ ไมโครซอฟท์ให้รายละเอียดโดยใช้คำสโลแกนงานเพียงว่า"It's time to share." ซึ่งมีนัยว่าถึงเวลาแล้วที่จะแบ่งปัน โดยทีมไมโครซอฟท์และเวอไรซอนต่างปฏิเสธที่จะให้ความเห็นว่าจุดประสงค์การจัดงานคือพิงก์จริงหรือไม่ ที่ผ่านมา ชัดเจนว่าไมโครซอฟท์มีความจำเป็นมากในการฟื้นฟูธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตัวเองอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะการเสียตลาดระบบปฏิบัติการสมาร์ทโฟนที่ถูกแอปเปิลและแอนดรอยด์ไล่บี้จนน่าเป็นห่วง ซึ่งล่าสุดบริษัทวิจัยตลาดนามคอมสกอร์ (comScore Inc.) เพิ่งรายงานผลสำรวจตลาดสมาร์ทโฟนในสหรัฐฯ พบว่าสัดส่วนตลาดวินโดวส์โฟนของไมโครซอฟท์นั้นลดลงเหลือ 15.1% เท่านั้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ลดลงจาก 19.1% ในเดือนพฤศจิกายน คอมสกอร์ระบุว่าตลาดสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์นั้นขยายตัวสูงสุดในสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วน 9% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนซึ่งมีอยู่ 3.8% ขณะที่สัดส่วนไอโฟนในสหรัฐฯก็ลดลงเหลือ 25.4% จากเดิม 25.5% นอกจากพิงก์ ความเคลื่อนไหวของไมโครซอฟท์ที่ต้องจับตามากกว่าคือการเปิดตัวสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการวินโดวส์โฟนเซเว่น (Windows Phone 7) ซึ่งจะเริ่มประเดิมตลาดในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปีนี้ และไมโครซอฟท์มั่นใจหนักหนาว่าจะสามารถกอบโกยส่วนแบ่งจากตลาดสมาร์ทโฟนทั่วโลกได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ Company Related Links : Microsoft

นักศึกษากับ ITSamsung GALAXY Spica

แพลตฟอร์ม Android

อายุการใช้งานยาวนานกว่า ความเร็ว ในสัมผัสแรก คุณจะรู้สึกได้ถึงความแตกต่างของโปรเซสเซอร์ 800MHz ในการปลดปล่อยพลังสำหรับการประมวลผลด้วยความเร็วสูงสุด ไม่ว่าคุณจะต้องการอัพโหลดข้อมูล ถ่ายโอนไฟล์ หรือสตรีมวิดีโอบนเว็บ คุณจะสามารถเลือกดูแอพพลิเคชั่นต่างๆ ได้อย่างฉับไว การตอบสนองที่รวดเร็วกว่าช่วยให้คุณเล่นเกมได้เร็วยิ่งขึ้น และคุณจะสามารถซิงค์ข้อมูลและอัพเดตอีเมลและรายชื่อได้อย่างง่ายดาย ช่วยให้คุณไม่พลาดการติดต่อ นอกจากนี้ แพลตฟอร์ม Android ยังเร่งความเร็ว CPU ได้สูงสุด จึงสามารถรันโปรแกรมและทำงานต่างๆ ได้อย่างไร้ปัญหา

แพลตฟอร์ม Android

ระบบปฏิบัติการ Android พลิกโฉมหน้าสมาร์ทโฟน ด้วยการนำเสนอรูปลักษณ์ที่แปลกใหม่และเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน Android สามารถทำงานร่วมกับพีซีได้อย่างกลมกลืน พร้อมทั้งขยายศักยภาพด้วย Android Market ซึ่งจะช่วยให้คุณทำทุกสิ่งได้ด้วยโทรศัพท์มือถือของคุณ โทรศัพท์ดังกล่าวติดตั้งแอพพลิเคชั่นยอดนิยม ช่วยให้คุณทำทุกสิ่งทุกอย่างได้ตามต้องการ ตั้งแต่การท่องเว็บด้วยการค้นหาข้อมูลบน Google ไปจนถึงการรับส่งข้อความโต้ตอบแบบทันที อีเมล และการเข้าถึง You Tube

อายุการใช้งาน battery ยาวนานกว่า

ด้วยคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมมากมายบนโทรศัพท์รุ่นนี้ คุณจะสามารถเพลิดเพลินกับการใช้งานได้ยาวนานขึ้น และแบตเตอรี่ที่ทรงพลังจาก Galaxy Spica จะช่วยให้คุณทำอย่างนั้นได้อย่างแน่นอน! แบตเตอรี่ที่มีความจุมากกว่าย่อมหมายถึงเวลาใช้งานที่เพิ่มมากขึ้นสำหรับคุณ คุณจะสามารถใช้โทรศัพท์มือถือได้อย่างเต็มศักยภาพก่อนการชาร์จแบตเตอรี่ครั้งต่อไป

ข้อมูลจาก SAMSUNG

"iPad"ขายวันเดียว3แสนเครื่อง ฮุนไดปิ๊งไอเดียแถมพร้อมรถ



คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น

iPad คอมพิวเตอร์แท็บเล็ตหน้าจอสัมผัสขนาด 9.7 นิ้วจากแอปเปิล ความหนาตัวเครื่อง 0.5 นิ้ว มาพร้อมหน่วยความจำภายในเครื่อง 3 ขนาดได้แก่ 16GB 32GB และ 64GB ประกอบด้วยรุ่นรองรับ Wi-Fi อย่างเดียว และ Wi-Fi + 3G มีเทคโนโลยี Bluetooth การันตีแบตเตอรี่ใช้งานต่อเนื่อง 10 ชั่วโมง


Hyundai Equus รถหรูจากฮุนไดที่จะจำหน่ายพร้อม iPad


หน้าจอระบบควบคุมมัลติมีเดียที่ฮุนไดติดตั้งไว้หน้าแผงควบคุมรถใน Hyundai Equus อยู่แล้ว โดยฮุนไดไม่ระบุว่าจะนำ iPad มาติดตั้งแทน แต่จะเปิดทางให้เจ้าของรถใช้ iPad เพื่ออ่านคู่มือใช้งานรถและนัดหมายบริการกับฮุนไดได้สะดวกขึ้น

นักวิเคราะห์หน้าคว่ำเมื่อแอปเปิลออกมาประกาศว่าสามารถจำหน่าย "ไอแพด (iPad)" คอมพิวเตอร์แท็บเล็ตหน้าจอสัมผัสรุ่นแรกของแอปเปิลได้ 300,000 เครื่องในวันเปิดตัววันเดียว เป็นไปตามคำพยากรณ์ก่อนหน้าที่จะมีการประกาศเพิ่มเป็น 600,000 ถึง 700,000 เครื่องเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ล่าสุด"ฮุนไดมอเตอร์อเมริกา"ปิ๊งไอเดีย เตรียมแถมไอแพดให้กับผู้ซื้อรถหรูเพื่อยกระดับจุดยืนความไฮเทคแบบก้าวกระโดด

ยอดจำหน่าย 300,000 เครื่องของไอแพดที่แอปเปิลประกาศออกมาอย่างเป็นทางการนี้สูงกว่าไอโฟน (iPhone) สมาร์ทโฟนหน้าจอสัมผัสของแอปเปิลที่สามารถขายได้ 270,000 เครื่องในช่วง 2 วันแรกของการจำหน่าย ก่อนจะจำหน่ายได้ 1.1 ล้านเครื่องในช่วง 3 เดือนแรกของการทำตลาด

การสำรวจพบว่าผู้ซื้อไอแพดราว 3 ใน 4 คือผู้ใช้คอมพิวเตอร์แมคอินทอชอยู่แล้ว มีเพียง 1 ใน 4 เท่านั้นที่เป็นผู้ใช้คอมพิวเตอร์พีซี โดยราว 2 ใน 3 เป็นผู้บริโภคที่ใช้งานไอโฟนอยู่แล้ว และเกือบทั้งหมดหรือ 99% ของกลุ่มผู้ซื้อไอแพดในวันวางจำหน่ายวันแรกมีแผนจะใช้งานไอแพดคู่กับไอโฟน

ที่สำคัญ แอปเปิลให้ข้อมูลว่าเพียงวันเปิดจำหน่ายไอแพดวันแรก (เสาร์ที่ 3 เมษายน) วันเดียว เจ้าของเครื่องไอแพดลงมือดาวน์โหลดแอปพลิเคชันไปแล้วมากกว่า 1 ล้านครั้งเพื่อทดลองของใหม่ โดยหนังสืออิเล็กทรอนิกส์มากกว่า 250,000 ชิ้นถูกโหลดจากร้านไอจูนส์ (iTune) ไปแล้วเรียบร้อย

ก่อนหน้านี้ จีน มุนสเตอร์ (Gene Munster) นักวิเคราะห์จากบริษัทวิจัยไพเพอร์แจฟเฟรย์ (Piper Jaffray) เป็นนักวิเคราะห์คนล่าสุดที่ออกมาประกาศคำพยากรณ์ยอดขายไอแพดว่าจะมียอดขายในวันเปิดตัววันเดียว 600,000-700,000 เครื่อง เพิ่มขึ้นจากคำพยากรณ์ที่มุนสเตอร์เคยฟันธงว่ายอดขายไอแพดจะอยู่ที่ราว 200,000-300,000 เครื่อง เนื่องจากเสียงตอบรับของผู้บริโภคที่พบว่ามีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

"เฉพาะร้านใหญ่แอปเปิลสาขาถนนฟิฟธ์อเวนิวในนิวยอร์กนั้น มีผู้บริโภคมาเข้าคิวรอซื้อไอแพดมากกว่า 750 คน เป็นจำนวนที่มากกว่าการเข้าคิวซื้อไอโฟนรุ่นแรกหรือ iPhone 3GS"

มุนสเตอร์เชื่อว่า 75% ของผู้ซื้อไอแพดเมื่อวันเสาร์ (3) ที่ผ่านมาคือผู้ที่สั่งจองไอแพดผ่านหน้าเว็บไซต์ โดยยังเชื่อว่าไอแพดจะสามารถทำยอดขายได้ 1.3 ล้านเครื่องตลอดไตรมาสนี้

นอกเหนือจากวันเสาร์ มุนสเตอร์ยังเชื่อว่าไอแพดจะไม่ประสบภาวะสินค้าขาดตลาด เนื่องจากทีมวิจัยของมุนสเตอร์ทำการสำรวจร้านค้าแอปเปิลจำนวน 20 ร้านทั่วเมืองใหญ่ในสหรัฐฯ พบว่า 19 ร้านยังมีสต็อกสินค้าไอแพดรองรับอย่างเพียงพอ แถมยังมีร้านค้าในเครือเบสต์บาย (Best Buy) อีกหลายสาขาที่เตรียมพร้อมรองรับความต้องการอย่างดี

สำหรับยอดขายทั้งปี บริษัทวิจัยไอซัปพลาย (iSuppli) เป็นรายล่าสุดที่ออกมาเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์ โดยคาดว่าแอปเปิลจะสามารถจำหน่ายไอแพดได้ 7.1 ล้านเครื่องทั่วโลกตลอดปีนี้ และจะเพิ่มขึ้นเท่าตัวเป็น 14.4 ล้านเครื่องในช่วงปีหน้า ก่อนจะขยายตัวเป็น 3 เท่าในปี 2012 ด้วยยอดจำหน่าย 20.1 ล้านเครื่อง

**ซื้อรถฮุนได ได้ไอแพด**

ล่าสุดฮุนไดมอเตอร์อเมริกา (Hyundai Motor America) ประกาศว่าจะจำหน่ายรถยนต์รุ่นหรู Equus พร้อมไอแพดในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปีนี้ โดยจะติดตั้งคู่มือใช้งานรถยนต์ฉบับดิจิตอลลงในไอแพด รวมถึงนานาแอปพลิเคชันด้านบริการที่ผู้ใช้จะสามารถทำนัดหมายเพื่อรับบริการกับศูนย์บริการฮุนไดได้

สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้นักวิเคราะห์มองว่า ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเกาหลีใต้อย่างฮุนไดนั้นกำลังพยายามเคลื่อนไหวเพื่อพัฒนาตัวเองให้มีความทันสมัย และไฮเทค ซึ่งชาวอเมริกันต่างมองว่าแบรนด์อย่างบีเอ็มดับเบิลยู (BMW) หรือเมอร์ซิเดส (Mercedes) มักทำได้ดีกว่า โดยที่ผ่านมา ฮุนไดพยายามฉีกตัวเองจากตลาดรถรุ่นประหยัดด้วยการนำ Equus มาสู้กับตลาดรุ่นใหญ่ 380 แรงม้าอย่าง Lexus LS 460 และ Mercedes-Benz S550 บนความหวังเรื่องผลกำไรที่มากกว่า

ผู้บริหารฮุนไดเคยระบุว่า Equus จะมีราคาจำหน่ายที่ 50,000 ถึง 60,000 เหรียญ (ราว 1,700,000 ถึง 2,040,000 บาท) ยังไม่มีข้อมูลว่าเมื่อแถมไอแพดแล้ว ราคาจำหน่ายจริงจะสูงหรือต่ำกว่าเดิมอย่างไร ซึ่งเชื่อว่าจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้งในช่วงจำหน่ายจริง

อย่างไรก็ตาม ฮุนไดไม่ระบุว่าจะติดตั้งไอแพดลงในแผงควบคุมหน้ารถ แทนระบบมัลติมีเดียในรถยนต์ซึ่งฮุนไดติดตั้งหน้าจอขนาดกำลังดีไว้แล้ว แต่จุดประสงค์หลักคือ การเป็นรถยนต์ไร้กระดาษ (Paperless Car) ซึ่งขณะนี้สื่ออเมริกันได้เรียกขานรถยนต์รุ่น Equus ของฮุนไดที่จะจำหน่ายพร้อมไอแพดแล้วว่ารถยนต์ไร้กระดาษแบบครบวงจร ที่จะไม่มีคู่มือใช้รถเล่มหนา และไม่ต้องใช้กระดาษในการนัดหมายบริการ


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 6 เมษายน 2553 09:19 น.